วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2554

เงินตรา



ปัญหาสำหรับทุก ๆ คน
เราเชื่อว่า
แต่ละคนมีปัญหาแตกต่างกัน
แต่คงไม่มีใคร "ไม่มีปัญหา"
เพียงแต่เราต้องมองให้เห็นปัญหาจริง ๆ
ซึ่งการมองให้เห็นปัญหานี้
แม้แต่เราเอง
ซึ่งพยายามทำใจให้เย็น ๆ และมองนิ่ง ๆ นาน ๆ
เรายังไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้เลย

เราจะสามารถหยุดดิ้นรนได้อย่างไร
ในเมื่อวันนี้
ทุกคน ทุกชีวิตบนโลกใบนี้
ล้วนมีสิ่งเดียวที่ต้องการเหมือนกัน คือ "เงินตรา"

เงินไม่ใช่พระเจ้า
เงินไม่สามารถซื้อทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกได้
แต่เงินสามารถอำนวยความสะดวกให้เราไปถึงที่หมายได้ง่ายมากขึ้น

เมื่อถึงวันหนึ่งที่เรามีเงินเพียงพอแล้ว
เพียงพอต่อความต้องการขั้นพื้นฐาน
แล้ววันนั้นเราสามารถหยุดได้หรือไม่

คนที่ยังไม่มีก็ต้องดิ้นรนกันต่อไป
แล้วคนที่มีเพียงพอแล้วล่ะ
คุณสามารถปลดปล่อยตนเองจากสิ่งที่พันธนาการคุณไว้ได้หรือไม่
คำถามง่าย ๆ
ที่บางคนไม่สามารถหาคำตอบได้
และเราก็เป็นหนึ่งในนั้น

วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2554

รินหัวใจใส่งาน



ท่าน ว.วชิรเมธีได้เดินทางไปเมืองจีน ไปเห็นกำแพงเมืองที่มีอายุยืนยาวถึงสองสามพันปี
ท่านได้ถามมัคคุเทศก์ว่า "ทำไมมันทนจัง"
มัคคุเทศก์บอกว่า "จิ๋นซีฮ่องเต้ โปรดให้ปั้นอิฐแต่ละก้อนด้วยวิธีพิเศษ แล้วทุกคนที่ปั้นอิฐจะต้องจารึกชื่อตัวเองไว้ที่ก้อนอิฐ เมื่อเผาเสร็จแล้วจึงเอาไปก่อกำแพง ฝนตกแดดส่อง ถ้าอิฐของใครสึกหรอก เอาคนปั้นที่มีชื่อเขียนติดไว้ไปตัดหัว แล้วเอาศพฝังใต้ซากกำแพงเมือง"

ด้วยเหตุนี้ เจ้าหน้าที่ทุกคนจึงตั้งใจบรรจงปั้นอิฐอย่างสุดความสามารถ เพราะกลัวตายจึงตั้งใจปั้นจริง ๆ อิฐทุกก้อนจึงอยู่คงทนยาวนานมาถึงทุกวันนี้ ถ้าเราทำได้เหมือนคนปั้นอิฐของจิ๋นซีฮ่องเต้ งานของเราจะเป็นงานที่ดีที่สุด

ลูกค้าที่มาเจอหน่วยงานเราจะประทับใจกลับไป อย่าทำงานเหมือนลวกก๋วยเตี๋ยว ลวก ๆ สุกบ้างไม่สุกบ้าง
ทำงานต้องทำให้ดี ต้องประณีต
ประณีตหมายถึงรินใจใส่งาน
ถ้ารินใจใส่งานจะได้งานชิ้นเอกทุกเรื่องทุกครั้งไป

งานที่สำคัญที่สุด คือ งานที่เราทำอยู่ตอนนี้ ทำให้ดีที่สุด
ถ้าเราทำให้ดีที่สุด ตอนนี้
มันจะกลายเป็นพรุ่งนี้ที่ดีที่สุด
เมื่อมันเป็นวันวายมันก็เป็นวันวายที่ดีที่สุด
แล้วเราจะมีความสุขกับมัน ถ้าเราทำอย่างดีที่สุด


ที่มา ::
งานสัมฤทธิ์ ชีวิตรื่นรมย์
ท่าน ว.วชิรเมธี

งานที่สำคัญที่สุด


งานที่สำคัญที่สุด คือ งานที่เราทำอยู่ในขณะนี้

เราทำงานอะไร จงใส่จิตใส่ใจกับมันให้เต็มร้อย
อย่าสักแต่ว่าทำ
เพราะว่าถ้าสักแต่ว่าทำงานก็ไม่ดีความสามารถเราก็ไม่พัฒนา
ทำอะไรก็พยายามทำให้ดีที่สุด
พระพุทธเจ้าเวลาทำงาน
ทรงรับสั่งว่า "ฉันทำงานเหมือนราชสีห์"
ราชสีห์เวลาจับหนู โดดตะครุบด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดด้วยศักยภาพทั้งหมด

เราทุกคนก็เช่นกัน
เวลาทำงาน งานของเราต้องสำคัญที่สุด
ไม่ทำสักแต่ว่าทำ แต่จะต้องทำให้ดีที่สุด
เพราะถ้าเราทำให้ดีที่สุด
ผลงานของมันจะประกาศศักยภาพของเราไปตลอดชีวิต


ที่มา ::
งานสัมฤทธิ์ ชีวิตรื่นรมย์
ท่าน ว.วชิรเมธี

คนที่สำคัญที่สุด



คนที่สำคัญที่สุด คือ "คนที่อยู่ตรงหน้า"

ทำไมคนที่อยู่ข้างหน้าเราจึงสำคัญ ก็เพราะว่ามนุษย์พบเจอกันไม่บ่อยนัก
ในชีวิตนี้มนุษย์ที่มาปฏิสัมพันธ์กันเหมือนไม้สองท่อน
ที่ลอยมาคนละทิศคนละทางมาเจอกันกลางทะเล
ทะเลกว้างแสนกว้างแต่ไม้สองท่อนยังคงไหลมาเจอกันได้
เมื่อไหลมาเจอกันโครม
แล้วในที่สุดก็จะไหลจากกันไป
คงไม่มีไม้ท่อนไหนที่ไหลมาชนกันโครม แล้วอยู่ติดกันตลอดไป

ชีวิตเราไหลมาเจอพ่อเจอแม่ อยู่ด้วยกันไม่กี่ปีพ่อแม่ตายจาก
ไหลมาเจอสามีหรือภรรยาในดวงใจ อยู่กันไปไม่กี่ปีบางทีไม่ตายจาก แต่เขาก็จากไปเอง
เพราะฉะนั้น วิถีชีวิตของมนุษย์เราจะเจอกันแค่ชั่วคราวเท่านั้น
ถึงเราจะรักกันแค่ไหนจะดีต่อกันแค่ไหนก็ตาม ก็ชั่วคราวเท่านั้น

เพราะฉะนั้นเรามาเจอกันแค่ชั่วคราว ควรจะดูแลโมงยามที่แสนสั้นนี้ให้ดีที่สุด ให้เป็นชั่วคราวที่งดงามที่สุด

ที่มา ::
งามสัมฤทธิ์ ชีวิตรื่นรมย์
ท่าน ว.วชิรเมธี